Gap
( รูปช่องว่าง )
เป็นช่องว่างที่เกิดขึ้นช่วงราคากำลังเคลื่องตัวสุงขึ้นหรือต่ำลง เกิดขึ้นเมือราคาเปิดอยู่ในระดับที่สุงกว่ารา
คาสุงสุดที่เกิดขึ้นเมือวานนี้ แบ่งได้เป็น 3 ลักษณะ คือ
1. Breakaway gap คือ ช่องว่างที่เกิดขึ้นหลังจากที่ราคาเคลื่อนไหวเกาะกลุ่มกันมา ณ จุดที่เกิดช่องว่าง
ราคาจะเกิดการเปลียนทิศทางจากราคาที่เกาะกลุ่มกันมาก่อนหน้านี้
2. Runaway gap คือ เป็นช่องว่างที่เกิดจากแรงผลักดันของแนวโน้ม ใน กรณีที่ราคามีแนวโน้มสุงขึ้น
เมือเกิด Runaway gap จะเป็นเครื่องยืนยันว่าความต้องการในหุ้นนั้นยังคงมีมาก
3. Exhaustion gap คือ เป็นช่องว่างที่เมือเกิดขึ้นแล้วแสดงให้เห็นว่าราคาที่กำลังสุงขี้น หรือ ลดลงนั้น
กำลังจะสิ้นสุงลง หมายความว่า เมือเกิดช่องว่างลักษณะนี้ เป็นสัญญาณบอกว่าในช่วงต่อไปราคากำลัง
จะเปลี่ยนทิศทางไปจากเดิม
________________________
ช่วงเวลา เปิด - ปิด ของตลาด
ตามเวลาประเทศไทย ตลาดจะเปิดทำการตั้งแต่เวลาตี 4 ของเช้าวันจันทร์ และปิดตี 4 ของเช้าวันเสาร์ (รวม 120 ชั่วโมงต่อสัปดาห์)
ตลาด USD = US Dollar เปิดเวลา 19.00 น. ถึงตี 3
ตลาด GBP = British Pound เปิดเวลา 14.00 - 22.00 น.
ตลาด EUR = Euro เปิดเวลา 13.00 - 21.00 น.
ตลาด CHF = Swiss Franc เปิดเวลา 13.00 - 21.00 น.
ตลาด JPY = Japanese Yen เปิดเวลา 7.00 - 14.00 น.
ตลาด AUD = Australian Dollar เปิดเวลา 5.00 - 13.00 น.
________________________
17 TIPS ลับ เทรด FOREX ให้เซียน
1.พยายามพัฒนากลยุทธในการเทรดและต้องแน่ใจว่ามันทำงานได้ดีกับข้อมูลในอดีต จากนั้นต้องแน่ใจว่ามันทำงานได้ดีในเดโมแอคเค้าท์ และสุดท้ายต้องแน่ใจว่ามันทำงานได้ดีในแอคเค้าท์จริงด้วยปริมาณล็อตน้อยๆ จากนั้นถ้ามันทำงานได้ดีคุณสามารถนำมันมาใช้งานจริงกับปริมาณการเทรดที่ใหญ่ขึ้นการเทรดที่ไม่มีกลยุทธจะทำให้ไม่สามารถมีกำไรในระยะยาวได้
2.เมื่อคุณเทรด คุณจะต้องพิจารณาแนวโน้มของเทรนในปัจจุบันเสมอ ซึ่งมันขึ้นกับทามเฟรมที่คุณใช้
เช่น ระยะวันหรือระยะเดือน เป็นต้น ถ้าตลาดอยู่ในสภาวะที่มีแนวโน้ม คุณจะต้องเปิดเทรดตามแนวโน้ม
นั้น ห้ามเปิดเทรดสวนแนวโน้มนั้น และถ้ามันไม่มีแนวโน้ม คุณสามารถเทรดได้ทั้งสองทิศทางด้วยการ
ขีดเทรนไลน์ในลักษณะ CHANNEL
3.ก่อนที่คุณจะเทรดในทามเฟรมนั้นๆ คุณจะต้องตรวจสอบทามเฟรมที่มีขนาดใหญ่กว่าเสมอ เช่น ถ้าคุณเทรดระหว่างวัน คุณจะต้องตรวจสอบทามเฟรมระยะเดย์ เพื่อให้แน่ใจว่าคุณไม่ได้เทรดสวนทามเฟรมระยะเดือน
4.ใช้ทามเฟรมขนาดเล็กเพื่อหาจุดเข้าจุดออกที่ดีที่สุด ถ้าคุณเทรดทามเฟรม 1 ชั่วโมง ใช้ทามเฟรม 15 นาที เพื่อหาจุดเข้าจุดออกที่ดีที่สุด ถ้าคุณเทรดทามเฟรมระยะวัน คุณควรใช้ทามเฟรม 1 ชั่โมงในการหาจุดเข้าและจุดออกที่ดีที่สุด
5.เรียนรู้วิธีการบริหารความเสี่ยง เพราะถ้าคุณไม่บริหารความเสี่ยงและเทรดมากจนเกินไป เมื่อทุนคุณหมด คุณก็จำเป็นที่จะต้องออกจากธุรกิจนี้อย่างทันที นี่คือเหตุผลว่าทำไมคุณไม่ควรเสี่ยงเกิน 5% ของพอร์ต และสำหรับทริปนี้ ผมแนะนำว่าคุณไม่ควรที่จะเทรดเกิน 2-3% ของพอร์ต
6.เรียนรู้ที่จะควบคุมอารมณ์ของคุณ เมื่อคุณเปิดและปิดโพซิชันของคุณบนพื้นฐานของอารมณ์ไม่ใช่บนพื้นฐานของระบบที่ได้บอกคุณ เมื่อนั้นคุณจะเริ่มเสียเงิน เช่นเดียวกันถ้าคุณชนะติดๆกันคุณก็จะเริ่มคิดว่าคุณเองคือผู้วิเศษ และละทิ้งระบบของคุณซึ่งจะนำไปสู่การสูญเสียเงินครั้งใหญ่ ดั้งนั้นคุณจะต้องทำใจให้สงบ ไม่ว่าคุณจะเทรดได้หรือเสีย หลังจากการเทรดที่พ่ายแพ้ ไม่นานคุณก็จะได้พบกับการเทรดที่ได้รับชัยชนะ ซึ่งจะชดเชยการสูญสียที่มีมาก่อนหน้านั้น
7.กลยุทธในการเทรดควรจะเหมาะสมกับไลฟ์สไตล์และบุคลิกภาพของคุณ ถ้าคุณมีเวลาไม่กี่ชั่วโมงต่อวัน คุณควรเลือกเทรดในทามเฟรมขนาดใหญ่ เช่น ระยะวันหรือระยะเดือน ถ้าคุณไม่สามารถรอคอยการเคลื่อนไหวขนาดใหญ่ได้คุณควรเทรดในทามเฟรมขนาดเล็ก เช่น 5-15 นาที ถ้าคุณต้องการเวลาหลายชั่วโมงในการตัดสินใจ คุณควรเลือกทามเฟรมขนาดใหญ่ และเทรดในแนวโน้มระยะยาว
8.ถ้าคุณกำลังสงสัยหรือไม่แน่ใจในตลาด คุณควรงดจากการเทรด การที่คุณหยุดเทรดจะช่วยให้คุณหลีกเลี่ยงการเสียเงินได้ และเตรียมความพร้อมที่จะทำกำไรก้อนใหญ่เมื่อมีเทรนปรากฏขึ้น
9.ใช้จุดตัดขาดทุนหรือการเฮดจ์เสมอ เมื่อคุณอยู่ตรงข้ามกับแนวโน้มคุณควรตัดขาดทุนหรือเฮดจ์เพื่อรักษาเงินทุนของคุณไว้อย่าเสี่ยงเงินของคุณทั้งหมดเพียงเพื่อการเทรดเพียงแค่ครั้งเดียว
10.ก่อนที่จะยอมรับสัญญาณการเทรด คุณต้องตรวจสอบก่อนว่า กำไร/ขาดทุน
ต้องได้อย่างน้อย 2:1 และอย่าเข้าเทรดถ้า กำไร/ขาดทุน น้อยกว่า 2 จากสถิติพบว่า โดยทั่วไปแล้วเทรดเดอร์จะมีความสามารถในการคาดเดาตลาดได้ถูกต้องประมาณ 60% โดยเฉลี่ยเท่านั้น นี่คือเหตุผลว่าทำไม กำไร/ขาดทุน ควรต้องได้อย่างน้อย 2:1 นี่คือแนวทางที่จะทำให้คุณได้กำไรในระยะยาว
11.อย่าถัวเฉลี่ยเมื่อคุณเทรดผิดทาง ถ้าคุณถัวเฉลี่ยในขณะที่คุณเทรดผิดทาง นั่นหมายถึงว่าคุณกำลังเทรดด้วยอารมณ์ ถ้าตลาดไม่กลับมายังทิศทางที่คุณคิดคุณจะเสียเงินจำนวนมาก บางคนก็ใช้วิธีการเลื่อนจุดสต๊อบลอสออกไปเมื่อเขาเทรดผิดทาง นั่นเป็นแนวทางที่จะทำให้คุณเสียเงิน ในทริปนี้เราขอแนะนำว่าให้คุณเพิ่มโพซิชันเมื่อคุณเทรดถูกทาง นั่นหมายถึงการถัวเฉลี่ยในทิศทางการเทรดที่ถูกต้องนั่นเอง
12.ตัดขาดทุนและปล่อยให้กำไรวิ่งไป ปิดโพซิชันที่ขาดทุนโดยไม่ลังเล และปล่อยให้กำไรสะสมมากขึ้น อย่ากลัวว่าตลาดจะรีเทิร์นกลับมาและคุณจะเสียแค่ -20 จุด เมื่อมันวิ่งไปให้ยกจุดตัดขาดทุนมาไว้ที่ศูนย์และคุณปล่อยให้กำไรวิ่งไป อาจเป็นไปได้ว่าคุณบวก +80 จุด ซึ่งมาจะกลบการขาดทุนของคุณในตอนแรก
13.คุณควรรู้เวลาของค่าเงินที่คุณจะเทรดว่าเวลาไหนที่แอคทีฟที่สุด อย่างเช่น GBPUSD และ EURUSD จะแอคทีฟเวลาที่ตลาดลอนดอนและตลาดนิวยอร์กเปิดซ้อนทับกัน (ระหว่าง 8:00 AM และ 11:00 AM EST) ส่วน AUDJPY จะแอคทีฟเมื่อตลาดซิดนีย์และตลาดโตเกียวเปิดซ้อนทับกัน (ระหว่าง 7:00 PM และ 12:00 AM EST) มันง่ายและปลอดภัยที่จะรู้ว่าควรจะเทรดช่วงเวลาไหน ยังดีกว่าต้องมานั่งเฝ้าเวลาอื่นที่กราฟแกว่งเพียงแค่ 20 จุด
14.คุณควรรู้วันที่เหมาะสมกับการเทรดในรอบสัปดาห์ อย่าเทรดเมื่อตลาดมีโวลุ่มต่ำ นี่คือเหตุผลว่าทำไมคุณไม่ควรเทรดวันจัทร์และวันศุกร์ วันจันทร์เทรดจะมีแนวโน้มแกว่งตัวในกรอบแคบๆ ส่วนวันศุกร์ก็จะมีแนวโน้มที่ผันผวนมาก เพราะว่าวันศุกร์มีเทรดเดอร์จำนวนมากปิดโพซิชันในระยะวีคของพวกเขา
15.หลีกเลี่ยงการใช้เลเวอร์เลท สำหรับเทรดเดอร์หน้าใหม่ เลเวอร์เลทที่มากกว่า 100:1 คือ หายนะ เลเวอร์เลทที่ 100:1หมายความว่า ทุกๆ 1 เหรียญในแอคเค้าท์ของคุณ คุณสามารถเทรดได้ถึง 100 เหรียญ แต่ถ้าคุณเปิดโพซิชันและมันเคลื่อนที่ตรงข้ามกับคุณ คุณจะเสียเงินอย่างรวดเร็วมากกว่าการเรดที่ปราศจากเลเวอร์เลท
16.พยายามประเมินทักษะการเทรดของคุณทุกๆสิ้นเดือนหรือสิ้นปี อย่าตัดสิ้นความสำเร็จหรือล้มเหลวพียงแค่การเทรดเพียงแค่ครั้งเดียว กลยุทธในการเทรดอาจจะผิดพลาดถึง 10 ครั้งติดๆกัน ด้วยการสูญเสียครั้งครั้งละน้อยๆ เช่น -15 จุด แต่เมื่อการเทรดเข้าทางของคุณ คุณอาจทำได้ถึง +300 จุด ต่อเดือนและอาจทำได้ถึง +2000จุด ต่อปี แต่ถ้าคุณตัดสินการเทรดทั้งหมดจากเพียงแค่การเทรดในตอนเริ่มต้นเท่านั้น คุณก็อาจจะยอมแพ้ไปก่อน ก่อนที่จะได้พบกับชัยชนะที่ยิ่งใหญ่ในภายหลัง
17.ไม่มีใครเกิดมาพร้อมที่จะเป็นเทรดเดอร์ที่ประสบความสำเร็จโดยทันที เทรดเดอร์ที่ประสบความสำเร็จล้วนแล้วแต่ต้องผ่านการเรียนรู้ทั้งนั้น คุณอาจจะต้องล้างพอร์ตหลายครั้ง และอาจจะต้องฝากเงินเข้าไปในพอร์ตอีกหลายครั้ง จนกว่าคุณจะพบแนวทางของคุณเองที่สามารถทำกำไรได้ นี่คือเหตุผลว่าทำไมการเริ่มต้นของเทรดเดอร์หน้าใหม่จึงควรที่จะเทรด้วยแอคเค้าท์ขนาดเล็ก ซึ่งไม่มากกว่า 1,000 เหรียญ และเมื่อคุณทำกำไรได้อย่างสม่ำเสมอในแอคเค้าท์เล็ก คุณก็สามารถที่จะฝากเงินเพิ่มได้เพื่อเทรดด้วยขนาดล็อตที่ใหญ่ขึ้น
Gap
( รูปช่องว่าง )
เป็นช่องว่างที่เกิดขึ้นช่วงราคากำลังเคลื่องตัวสุงขึ้นหรือต่ำลง เกิดขึ้นเมือราคาเปิดอยู่ในระดับที่สุงกว่ารา
คาสุงสุดที่เกิดขึ้นเมือวานนี้ แบ่งได้เป็น 3 ลักษณะ คือ
1. Breakaway gap คือ ช่องว่างที่เกิดขึ้นหลังจากที่ราคาเคลื่อนไหวเกาะกลุ่มกันมา ณ จุดที่เกิดช่องว่าง
ราคาจะเกิดการเปลียนทิศทางจากราคาที่เกาะกลุ่มกันมาก่อนหน้านี้
2. Runaway gap คือ เป็นช่องว่างที่เกิดจากแรงผลักดันของแนวโน้ม ใน กรณีที่ราคามีแนวโน้มสุงขึ้น
เมือเกิด Runaway gap จะเป็นเครื่องยืนยันว่าความต้องการในหุ้นนั้นยังคงมีมาก
3. Exhaustion gap คือ เป็นช่องว่างที่เมือเกิดขึ้นแล้วแสดงให้เห็นว่าราคาที่กำลังสุงขี้น หรือ ลดลงนั้น
กำลังจะสิ้นสุงลง หมายความว่า เมือเกิดช่องว่างลักษณะนี้ เป็นสัญญาณบอกว่าในช่วงต่อไปราคากำลัง
จะเปลี่ยนทิศทางไปจากเดิม
________________________
ช่วงเวลา เปิด - ปิด ของตลาด
ตามเวลาประเทศไทย ตลาดจะเปิดทำการตั้งแต่เวลาตี 4 ของเช้าวันจันทร์ และปิดตี 4 ของเช้าวันเสาร์ (รวม 120 ชั่วโมงต่อสัปดาห์)
ตลาด USD = US Dollar เปิดเวลา 19.00 น. ถึงตี 3
ตลาด GBP = British Pound เปิดเวลา 14.00 - 22.00 น.
ตลาด EUR = Euro เปิดเวลา 13.00 - 21.00 น.
ตลาด CHF = Swiss Franc เปิดเวลา 13.00 - 21.00 น.
ตลาด JPY = Japanese Yen เปิดเวลา 7.00 - 14.00 น.
ตลาด AUD = Australian Dollar เปิดเวลา 5.00 - 13.00 น.
________________________
17 TIPS ลับ เทรด FOREX ให้เซียน
1.พยายามพัฒนากลยุทธในการเทรดและต้องแน่ใจว่ามันทำงานได้ดีกับข้อมูลในอดีต จากนั้นต้องแน่ใจว่ามันทำงานได้ดีในเดโมแอคเค้าท์ และสุดท้ายต้องแน่ใจว่ามันทำงานได้ดีในแอคเค้าท์จริงด้วยปริมาณล็อตน้อยๆ จากนั้นถ้ามันทำงานได้ดีคุณสามารถนำมันมาใช้งานจริงกับปริมาณการเทรดที่ใหญ่ขึ้นการเทรดที่ไม่มีกลยุทธจะทำให้ไม่สามารถมีกำไรในระยะยาวได้
3.ก่อนที่คุณจะเทรดในทามเฟรมนั้นๆ คุณจะต้องตรวจสอบทามเฟรมที่มีขนาดใหญ่กว่าเสมอ เช่น ถ้าคุณเทรดระหว่างวัน คุณจะต้องตรวจสอบทามเฟรมระยะเดย์ เพื่อให้แน่ใจว่าคุณไม่ได้เทรดสวนทามเฟรมระยะเดือน
2.เมื่อคุณเทรด คุณจะต้องพิจารณาแนวโน้มของเทรนในปัจจุบันเสมอ ซึ่งมันขึ้นกับทามเฟรมที่คุณใช้
เช่น ระยะวันหรือระยะเดือน เป็นต้น ถ้าตลาดอยู่ในสภาวะที่มีแนวโน้ม คุณจะต้องเปิดเทรดตามแนวโน้ม
นั้น ห้ามเปิดเทรดสวนแนวโน้มนั้น และถ้ามันไม่มีแนวโน้ม คุณสามารถเทรดได้ทั้งสองทิศทางด้วยการ
ขีดเทรนไลน์ในลักษณะ CHANNEL
3.ก่อนที่คุณจะเทรดในทามเฟรมนั้นๆ คุณจะต้องตรวจสอบทามเฟรมที่มีขนาดใหญ่กว่าเสมอ เช่น ถ้าคุณเทรดระหว่างวัน คุณจะต้องตรวจสอบทามเฟรมระยะเดย์ เพื่อให้แน่ใจว่าคุณไม่ได้เทรดสวนทามเฟรมระยะเดือน
4.ใช้ทามเฟรมขนาดเล็กเพื่อหาจุดเข้าจุดออกที่ดีที่สุด ถ้าคุณเทรดทามเฟรม 1 ชั่วโมง ใช้ทามเฟรม 15 นาที เพื่อหาจุดเข้าจุดออกที่ดีที่สุด ถ้าคุณเทรดทามเฟรมระยะวัน คุณควรใช้ทามเฟรม 1 ชั่โมงในการหาจุดเข้าและจุดออกที่ดีที่สุด
5.เรียนรู้วิธีการบริหารความเสี่ยง เพราะถ้าคุณไม่บริหารความเสี่ยงและเทรดมากจนเกินไป เมื่อทุนคุณหมด คุณก็จำเป็นที่จะต้องออกจากธุรกิจนี้อย่างทันที นี่คือเหตุผลว่าทำไมคุณไม่ควรเสี่ยงเกิน 5% ของพอร์ต และสำหรับทริปนี้ ผมแนะนำว่าคุณไม่ควรที่จะเทรดเกิน 2-3% ของพอร์ต
6.เรียนรู้ที่จะควบคุมอารมณ์ของคุณ เมื่อคุณเปิดและปิดโพซิชันของคุณบนพื้นฐานของอารมณ์ไม่ใช่บนพื้นฐานของระบบที่ได้บอกคุณ เมื่อนั้นคุณจะเริ่มเสียเงิน เช่นเดียวกันถ้าคุณชนะติดๆกันคุณก็จะเริ่มคิดว่าคุณเองคือผู้วิเศษ และละทิ้งระบบของคุณซึ่งจะนำไปสู่การสูญเสียเงินครั้งใหญ่ ดั้งนั้นคุณจะต้องทำใจให้สงบ ไม่ว่าคุณจะเทรดได้หรือเสีย หลังจากการเทรดที่พ่ายแพ้ ไม่นานคุณก็จะได้พบกับการเทรดที่ได้รับชัยชนะ ซึ่งจะชดเชยการสูญสียที่มีมาก่อนหน้านั้น
7.กลยุทธในการเทรดควรจะเหมาะสมกับไลฟ์สไตล์และบุคลิกภาพของคุณ ถ้าคุณมีเวลาไม่กี่ชั่วโมงต่อวัน คุณควรเลือกเทรดในทามเฟรมขนาดใหญ่ เช่น ระยะวันหรือระยะเดือน ถ้าคุณไม่สามารถรอคอยการเคลื่อนไหวขนาดใหญ่ได้คุณควรเทรดในทามเฟรมขนาดเล็ก เช่น 5-15 นาที ถ้าคุณต้องการเวลาหลายชั่วโมงในการตัดสินใจ คุณควรเลือกทามเฟรมขนาดใหญ่ และเทรดในแนวโน้มระยะยาว
8.ถ้าคุณกำลังสงสัยหรือไม่แน่ใจในตลาด คุณควรงดจากการเทรด การที่คุณหยุดเทรดจะช่วยให้คุณหลีกเลี่ยงการเสียเงินได้ และเตรียมความพร้อมที่จะทำกำไรก้อนใหญ่เมื่อมีเทรนปรากฏขึ้น
9.ใช้จุดตัดขาดทุนหรือการเฮดจ์เสมอ เมื่อคุณอยู่ตรงข้ามกับแนวโน้มคุณควรตัดขาดทุนหรือเฮดจ์เพื่อรักษาเงินทุนของคุณไว้อย่าเสี่ยงเงินของคุณทั้งหมดเพียงเพื่อการเทรดเพียงแค่ครั้งเดียว
10.ก่อนที่จะยอมรับสัญญาณการเทรด คุณต้องตรวจสอบก่อนว่า กำไร/ขาดทุน
ต้องได้อย่างน้อย 2:1 และอย่าเข้าเทรดถ้า กำไร/ขาดทุน น้อยกว่า 2 จากสถิติพบว่า โดยทั่วไปแล้วเทรดเดอร์จะมีความสามารถในการคาดเดาตลาดได้ถูกต้องประมาณ 60% โดยเฉลี่ยเท่านั้น นี่คือเหตุผลว่าทำไม กำไร/ขาดทุน ควรต้องได้อย่างน้อย 2:1 นี่คือแนวทางที่จะทำให้คุณได้กำไรในระยะยาว
ต้องได้อย่างน้อย 2:1 และอย่าเข้าเทรดถ้า กำไร/ขาดทุน น้อยกว่า 2 จากสถิติพบว่า โดยทั่วไปแล้วเทรดเดอร์จะมีความสามารถในการคาดเดาตลาดได้ถูกต้องประมาณ 60% โดยเฉลี่ยเท่านั้น นี่คือเหตุผลว่าทำไม กำไร/ขาดทุน ควรต้องได้อย่างน้อย 2:1 นี่คือแนวทางที่จะทำให้คุณได้กำไรในระยะยาว
11.อย่าถัวเฉลี่ยเมื่อคุณเทรดผิดทาง ถ้าคุณถัวเฉลี่ยในขณะที่คุณเทรดผิดทาง นั่นหมายถึงว่าคุณกำลังเทรดด้วยอารมณ์ ถ้าตลาดไม่กลับมายังทิศทางที่คุณคิดคุณจะเสียเงินจำนวนมาก บางคนก็ใช้วิธีการเลื่อนจุดสต๊อบลอสออกไปเมื่อเขาเทรดผิดทาง นั่นเป็นแนวทางที่จะทำให้คุณเสียเงิน ในทริปนี้เราขอแนะนำว่าให้คุณเพิ่มโพซิชันเมื่อคุณเทรดถูกทาง นั่นหมายถึงการถัวเฉลี่ยในทิศทางการเทรดที่ถูกต้องนั่นเอง
12.ตัดขาดทุนและปล่อยให้กำไรวิ่งไป ปิดโพซิชันที่ขาดทุนโดยไม่ลังเล และปล่อยให้กำไรสะสมมากขึ้น อย่ากลัวว่าตลาดจะรีเทิร์นกลับมาและคุณจะเสียแค่ -20 จุด เมื่อมันวิ่งไปให้ยกจุดตัดขาดทุนมาไว้ที่ศูนย์และคุณปล่อยให้กำไรวิ่งไป อาจเป็นไปได้ว่าคุณบวก +80 จุด ซึ่งมาจะกลบการขาดทุนของคุณในตอนแรก
13.คุณควรรู้เวลาของค่าเงินที่คุณจะเทรดว่าเวลาไหนที่แอคทีฟที่สุด อย่างเช่น GBPUSD และ EURUSD จะแอคทีฟเวลาที่ตลาดลอนดอนและตลาดนิวยอร์กเปิดซ้อนทับกัน (ระหว่าง 8:00 AM และ 11:00 AM EST) ส่วน AUDJPY จะแอคทีฟเมื่อตลาดซิดนีย์และตลาดโตเกียวเปิดซ้อนทับกัน (ระหว่าง 7:00 PM และ 12:00 AM EST) มันง่ายและปลอดภัยที่จะรู้ว่าควรจะเทรดช่วงเวลาไหน ยังดีกว่าต้องมานั่งเฝ้าเวลาอื่นที่กราฟแกว่งเพียงแค่ 20 จุด
14.คุณควรรู้วันที่เหมาะสมกับการเทรดในรอบสัปดาห์ อย่าเทรดเมื่อตลาดมีโวลุ่มต่ำ นี่คือเหตุผลว่าทำไมคุณไม่ควรเทรดวันจัทร์และวันศุกร์ วันจันทร์เทรดจะมีแนวโน้มแกว่งตัวในกรอบแคบๆ ส่วนวันศุกร์ก็จะมีแนวโน้มที่ผันผวนมาก เพราะว่าวันศุกร์มีเทรดเดอร์จำนวนมากปิดโพซิชันในระยะวีคของพวกเขา
15.หลีกเลี่ยงการใช้เลเวอร์เลท สำหรับเทรดเดอร์หน้าใหม่ เลเวอร์เลทที่มากกว่า 100:1 คือ หายนะ เลเวอร์เลทที่ 100:1หมายความว่า ทุกๆ 1 เหรียญในแอคเค้าท์ของคุณ คุณสามารถเทรดได้ถึง 100 เหรียญ แต่ถ้าคุณเปิดโพซิชันและมันเคลื่อนที่ตรงข้ามกับคุณ คุณจะเสียเงินอย่างรวดเร็วมากกว่าการเรดที่ปราศจากเลเวอร์เลท
16.พยายามประเมินทักษะการเทรดของคุณทุกๆสิ้นเดือนหรือสิ้นปี อย่าตัดสิ้นความสำเร็จหรือล้มเหลวพียงแค่การเทรดเพียงแค่ครั้งเดียว กลยุทธในการเทรดอาจจะผิดพลาดถึง 10 ครั้งติดๆกัน ด้วยการสูญเสียครั้งครั้งละน้อยๆ เช่น -15 จุด แต่เมื่อการเทรดเข้าทางของคุณ คุณอาจทำได้ถึง +300 จุด ต่อเดือนและอาจทำได้ถึง +2000จุด ต่อปี แต่ถ้าคุณตัดสินการเทรดทั้งหมดจากเพียงแค่การเทรดในตอนเริ่มต้นเท่านั้น คุณก็อาจจะยอมแพ้ไปก่อน ก่อนที่จะได้พบกับชัยชนะที่ยิ่งใหญ่ในภายหลัง
17.ไม่มีใครเกิดมาพร้อมที่จะเป็นเทรดเดอร์ที่ประสบความสำเร็จโดยทันที เทรดเดอร์ที่ประสบความสำเร็จล้วนแล้วแต่ต้องผ่านการเรียนรู้ทั้งนั้น คุณอาจจะต้องล้างพอร์ตหลายครั้ง และอาจจะต้องฝากเงินเข้าไปในพอร์ตอีกหลายครั้ง จนกว่าคุณจะพบแนวทางของคุณเองที่สามารถทำกำไรได้ นี่คือเหตุผลว่าทำไมการเริ่มต้นของเทรดเดอร์หน้าใหม่จึงควรที่จะเทรด้วยแอคเค้าท์ขนาดเล็ก ซึ่งไม่มากกว่า 1,000 เหรียญ และเมื่อคุณทำกำไรได้อย่างสม่ำเสมอในแอคเค้าท์เล็ก คุณก็สามารถที่จะฝากเงินเพิ่มได้เพื่อเทรดด้วยขนาดล็อตที่ใหญ่ขึ้น
ขอบคุณแหล่งข้อมูลดีๆ ครับ
ตอบลบ